Last updated: 8 ก.พ. 2568 | 72 จำนวนผู้เข้าชม |
ปั๊มลมคืออะไร มีความเป็นมาและหลักการทำงานยังไง?
เรามาดูกันถึงความเป็นมาและหลักการทำงานกันว่า ปั๊มนั้นถูกคิดค้นขึ้นในปี 1776 จากการนำเครื่องพ่นทรายของ John wilkinson มาพัฒนาต่อยอด แต่ก่อนหน้านั้นเป็นที่รู้จักกันในรูปแบบของ bellow ที่ทำขขึ้นเพื่อใช้สำหรับปั็มอากาศเข้าไปยังเตาหลอมเหล็กของคนสมัยก่อนเพื่อทุ่นแรง หลักการทำงานของปั๊มลมในปัจจุบันนั้นจะใช้ มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวกำเนิดกำลังขับเพื่อสร้างแรงดันลม โดยการนำมาอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยภายในกระบอกสูบจะประกอบไปด้วยวาวล์ดูเข้าและวาวล์ขาออกโดยทั้งสองจะทำงานสัมพันธ์กันด้วยกระบวนการนี้จะทำให้สามารถปล่อยลมออกมาอย่างสม่ำเสมอโดยอาศัยแรงดันในถังลมเพื่อสร้างความแรงของลมที่ปล่อยออกมา ประเภทการใช้งานก็สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายและเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน
วิธีเลือกปัั๊มลม เครื่องอัดลม ให้เหมาะกับงาน
สิ่งสำคัญในการใช้งานปั๊มลม คือ การเลือกชนิดและขนาดให้เหมาะสมต่อการทำงานและสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน เพราะในหลายภาคเช่นอุตสาหกรรมไปจนถึงการก่อสร้าง และ งานออโตโมทีพ ล้วนต้องการปั๊มลมที่เหมาะสมและมีการใช้งานต่างกันออกไปเรามาดูกันว่าจะเลือกใช้งานแบบไหนถึงจะเหมาะกับงานของคุณมากที่สุด เริ่มด้วย
3. เลือกตามขนาดปั๊มลมที่เหมาะสม
ขนาดมาตรฐานของปั๊มลมมักจะแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามการใช้งานต่าง ๆ และความต้องการของการใช้งานตามงานที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือขนาดมาตรฐานของปั๊มลมที่พบบ่อย เริ่มที่
3.1. ปั๊มลมขนาดเล็ก
- กำลังไฟฟ้า 1/6 ถึง 10 แรงม้า ใช้ไฟฟ้า 110V หรือ 220V
โดยมักใช้ในงานที่ต้องการลมแรงน้อยถึงปานกลาง เช่น งานช่าง, การใช้ในโรงงานขนาดเล็ก, หรือการใช้ทางทดแทนในงานที่ต้องการลมสะอาด
3.2. ปั๊มลมขนาดกลาง
- กำลังไฟฟ้า 15 ถึง 30 แรงม้า ใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 220V หรือ 380V
มักใช้ในงานที่ต้องการแรงดันลมมากขึ้น เช่น ในการทำความสะอาด, การเคลือบ, หรือการใช้ในโรงงานขนาดกลาง
3.3. ปั๊มลมขนาดใหญ่
- กำลังไฟฟ้า 40 แรงม้าขึ้นไป ไฟฟ้า: 380V หรือ 480V
มักใช้ในงานที่ต้องการแรงดันลมสูง, เช่น ในโรงงานขนาดใหญ่, การใช้ในการขนส่ง, หรือในงานที่ต้องการลมแรง ส่วน ปั้มลม 12v นั้นมักจะเป็นแบบประเภทสำหรับพกพาเพิ่มความสะดวกในการทำงานไปอีกหรือที่มักจะเรียกกันว่าปั๊มลมรถยนต์นั่นเอง
แรงดันของปั๊มลม สามารถแปรผันตามประสิทธิภาพและการใช้งานรวมไปถึงขนาของถังเก็บลมเช่น ปั๊มลม 25 ลิตร ,ปั๊มลม 30 ลิตร,ปั๊มลม 40 ลิตร และปั๊มลม 50 ลิตรที่เป็นมาตรฐาน โดยมักจะมีแรงดันที่ปั๊มลมสามารถสร้างได้ระหว่าง 80 psi ถึง 200 psi หรือ 5-13 bar หรือมากกว่านั้นตามความต้องการของแต่ละงานทั้งงานทั่วไปและในโรงงาน
4. วิธีติดตั้งและใช้งานปั๊มลม
ปั๊มลม มีส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วนที่ใช้สำหรับการทำงาน ได้แก่ 1. หัวปั๊มลม 2. มอเตอร์ปั๊มลม และ 3. ถังเก็บลม โดยมีวิธีการทำงานก็คือ อากาศจะถูกดูดเข้าผ่านหัวปั๊มลมโดย อัดลมเก็บไว้ในถังเก็บลมของเครื่องปั๊ม โดยมีมมอเตอร์ปั๊มลมเป็นตัวต้นในการดูดลมเข้ามาในถุงเก็บ ซึ่งขนาดของส่วนประกอบต่างๆ มีความสำคัญและจะต้องเหมาะสมกันเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
- การติดตั้งปั๊มลม ควรคำนึงถึง การตรวจสอบสภาพของปั๊มลมให้เรียบร้อย หากพบการชำรุดและข้อบกพร่องจะต้องทำการแก้ไขและซ่อมบำรุงก่อนทำการติดตั้ง โดยให้ติดตั้งปั๊มลมในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีฝุ่นหรือเศษผงมากเกินไป และที่สำคัญควรดูค่าความชื้นด้วยเพราะถ้าหากความชื้นมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดสนิมขึ้นภายในถังเก็บลมได้ และควรมีระยะห่างจากกำแพงอย่างน้อย 15 เซนติเมตรเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและตรวจเช็คสภาพ
- การตรวจเช็คมอเตอร์ ให้สังเกตุทิศทางการหมุนของมอเตอร์ปั๊มลมให้ถูกทาง โดยให้ตามที่ลูกศรที่มีแสดงอยู่ ถ้าหากว่ามอเตอร์หมุนผิดทิศทางให้ทำการสลับสายพานให้ถูกต้องเฉพาะ (ในกรณีที่เป็นปั๊มลมสายพาน)
- ต่อไฟเข้ากับปั๊มลม (กรณีปั๊มลมแบบลูกสูบ) โดยให้เลือกพิจรณาตามลักษณะของมอเตอร์ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งชนิดออกเป็น 2 แบบที่มีอยู่ในประเทศไทยนั่นก็คือแบบ 2เฟส และ 3 เฟส 2 สาย หรือ เฟสเดียว 220 V. (ไฟบ้าน)ทำการเสียบปล๊กก็ใช้ได้ทุกที่แต่ใช้กระแฟไฟฟ้าสูงกว่ามอเตอร์แบบ 3 เฟส ส่วนแบบ 3เฟส380 V. (ไฟโรงงาน) สังเกตุได้ง่ายๆว่าจะมีขั้วต่อสาย ไม่มีตัวคาปาซิเตอร์ติดอยู่ด้วย
5. การตั้งค่า pressure switch
ในปั๊มลมเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ระบบลม compressed air ทำงานอย่างถูกต้องและประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเริ่มต้นการตั้งค่า, ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปั๊มลมถูกปิดและไม่มีไฟฟ้าเชื่อมต่อกับปั๊มลมอยู่ ส่วนใหญ่ของ pressure switch จะมีฝาที่สามารถเปิดออกได้ เพื่อเข้าไปตั้งค่า ก่อนที่จะตั้งค่า pressure switch, ให้จดค่าแรงดันที่ต้องการใก่อนในปั๊มลม ของคุณ pressure switch จะมีปุ่มหรือน็อตที่สามารถใช้ปรับค่าแรงดัน. ปรับให้ค่าแรงดันตรงกับค่าที่ต้องการ โดยปกติจะมีปุ่มปรับค่า high pressure (แรงดันสูง) และ low pressure (แรงดันต่ำ)เมื่อทำการตั้งค่าแรงดันเสร็จสิ้น, ให้ปิดฝาครอบด้วยเพื่อป้องกันตัวปรับเอาไว้เปิดปั๊มลมและทดสอบการทำงานของระบบ. ตรวจสอบว่า pressure switch ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ หรือไม่
6. การดูแลรักษา และซ่อมบำรุง ปั๊มลม
การดูแลรักษาและซ่อมบำรุงปั๊มลมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ปั๊มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อย่างแรกคือทำตามคู่มือและศึกษาทำความเข้าใจปั๊มลมของคุณเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานปั๊มลมมากที่สุดและนี่คือบางขั้นตอนแนะนำเบื้องต้นที่คุณสามารถทำเพื่อดูแลรักษาและซ่อมบำรุงปั๊มลม ของคุณให้มีอายุการทำงานยาวนานขึ้นและสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- ตรวจสอบน้ำมัน ตรวจสอบระดับน้ำมันในเครื่องปั๊มลมอย่างสม่ำเสมอ และเติมน้ำมันตามความต้องการถ้าจำเป็น
- ตรวจสอบสายพาน ตรวจสอบสภาพของสายพานและแน่นหรือประสิทธิภาพการทำงานของมัน
- ทำความสะอาดกรองอากาศ ทำความสะอาดและเปลี่ยนกรองอากาศเป็นประจำเพื่อป้องกันการเสียหายจากฝุ่นและสิ่งสกปรก
- ระบายน้ำออกจากถังเก็บลม ตรวจสอบระบบระบายน้ำและให้น้ำระเหยได้อย่างถูกต้องเพื่อป้องกันสนิมภายในถังเก็บลม
- ทำความสะอาดระบบท่อ ทำความสะอาดท่อปั๊มและท่อล่อฟ้าเพื่อให้การไหลของลมมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- ตรวจสอบและซ่อมบำรุงชิ้นส่วนสำคัญ ตรวจสอบชิ้นส่วนสำคัญอื่น ๆ ของปั๊มลม เช่น สวิตช์ วาล์ว และชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่
- เช็คและปรับความดัน ตรวจสอบและปรับความดันของปั๊มลมตามที่ระบุในคู่มือการใช้งาน
การบำรุงรักษาปั๊มลมต้องเป็นไปตามลักษณะของปั๊ม เช่นกันกับยี่ห้อและรุ่นที่ต่างกัน การทำการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตนเองเป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นแรกในการบำรุงรักษา ซึ่งมีประโยชน์ในการตระหนักถึงอาการผิดปกติของปั๊มและอาจช่วยแก้ไขได้ทันที การศึกษาคู่มือการใช้งานเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เนื่องจากบางครั้งสาเหตุของปัญหาอาจแก้ไขได้ด้วยตนเอง แต่บางครั้งการซ่อมแซมอาจต้องการผู้เชี่ยวชาญเพราะความซับซ้อนของปัญหาอาจเพิ่มขึ้นนั่นเอง
สรุป
การเลือกปั๊มลมหรือเครื่องอัดลมให้เหมาะกับงานเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากมีหลายประเภทและขนาดต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน เช่น ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่มีอยู่และความต้องการของงานว่าต้องการแรงม้าเท่าไร ควรทราบว่างานของคุณต้องการลมประเภทใด เช่น ลมสะอาด, ลมที่ปนเปื้อนน้ำมันได้, หรือปั๊มลมออยฟรีที่ไม่ต้องการการบำรุงรักษาน้ำมัน มีปั๊มลมหลายประเภท เช่น ปั๊มลมแบบลูกสูบ, ปั๊มลมแบบสกรู, และปั๊มลมแบบกังหัน ควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน ควรเลือกขนาดของปั๊มลมที่เหมาะสมกับปริมาณลมที่ต้องการในงานของคุณ โดยดูที่กำลังไฟฟ้าและแรงม้าคำนึงถึงการติดตั้งและพื้นที่ในการใช้งาน เพื่อให้ปั๊มลมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แบรนด์ที่เราแนะนำในตอนนี้ก็จะมีของ ปั๊มลม puma ถ้าหากไม่แน่ใจควรศึกษาและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อการเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานของคุณ
31 มี.ค. 2568
1 เม.ย 2568
28 มี.ค. 2568
29 มี.ค. 2568