ปั๊มลมลูกสูบคืออะไร

ปั๊มลมแบบลูกสูบ (Reciprocating air compressors) ซึ่งเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากมีความทนทานสูง  และสามารถสร้างความดันหรือแรงดันของลมอัด  ได้ตั้งแต่ 1-10 bar โดยปั๊มลมประเภทลูกสูบสามารถแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ ปั๊มลมประเภทลูกสูบแบบใช้น้ำมัน และปั๊มลมประเภทลูกสูบแบบไม่ใช้น้ำมัน (Oil Free)  โดยความแตกต่างของปั๊มลมลูกสูบ ชนิดใช้น้ำมันและไม่ใช้น้ำมัน (Oil Free) นั้น จะอยู่ที่รูปแบบของหัวสูบ และกลไกภายในส่วนของการอัดอากาศและการหล่อลื่น การใช้งาน เช่น ใช้เติมลมในอู่ซ่อมรถยนต์ ร้านซ่อมจักรยานยนต์ งานพ่นสี ปืนลม สว่านลม จ่ายลมให้กับอุปกรณ์ลมต่างๆ ฯลฯ เนื่องจากใช้ปริมาณลมน้อยและแรงดันลมไม่สูงปั๊มลมลูกสูบจึงเหมาะกับอุตสาหกรรมเล็กๆ

1. รูปแบบของปั๊มลมลูกสูบแบบใช้น้ำมัน ลูกสูบของปั๊มลมชนิดนี้จะมีแหวนกวาดน้ำมันและแหวนกำลังอัดในกระบอกสูบลักษณะคล้ายรูปแบบลูกสูบของเครื่องยนต์ มีหน้าที่เติมช่องว่างระหว่างกระบอกสูบและลูกสูบเพื่อสร้างแรงอัด อีกทั้งยังมีหน้าที่กวาดน้ำมันเลี้ยงกระบอกสูบเพื่อลดความร้อนและลดการสึกหรอ เพื่อช่วยเพิ่มอายุการทำงานของตัวปั๊มให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 

2.รูปแบบของปั๊มลมลูกสูบแบบไม่ใช้น้ำมัน(Oil Free) ลูกสูบของปั๊มลมชนิดนี้จะมีลักษณะพิเศษ โดย จะเป็นลูกสูบทรงแบนครอบด้วยประเก็นทรงกลม ที่มีชื่อว่า CUP RING หรือ PISTON RING โดยประเก็นทรงกลมตัวนี้ มีหน้าที่ในการประสานตัวกับปลอกสูบ ในการสร้างแรงอัดหรือการสร้างลมโดยที่มีความยืดหยุ่นในตัวไม่ต้องการสารหล่อลื่น ในการผลิตลม ลมจึงสะอาดไม่มีละอองน้ำมันเจือปน

การทำงานของปั๊มลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor) ลูกสูบจะมีการเคลื่อนตัวในแนวดิ่งทำให้เกิดการดูดและอัดภายในกระบอกสูบ โดยที่ช่วงการดูดอากาศ ลิ้นช่องดูดเข้าจะทำการเปิดออกเพื่อดึงอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบ แต่ลิ้นทางด้านอัดอากาศออกจะปิดสนิท จากนั้นเมื่อถึงช่วงการอัดอากาศ ตัวลูกสูบจะดันอากาศให้ออกทางลมออก ทำให้ลิ้นทางลมออกเปิด ส่วนทางลิ้นดูดอากาศก็จะปิดลง เมื่อลูกสูบของปั้มลมขยับขึ้นลงจึงเกิดการดูดและอัดอากาศขึ้น หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆคือ หลักการทำงานของปั๊มลมลูกสูบ จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังมาขับเคลื่อนลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง ทำให้เกิดแรงดูดและอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยมีวาล์วทางด้านดูดและวาล์วทางออกทำงานสัมพันธ์กัน

การทำงานของปั๊มลม

 ปั๊มลมแบบลูกสูบเป็นที่นิยมใช้งานมากที่สุดด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและราคาที่ไม่สูงมากนักและยังสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกอีกด้วย โดยปั๊มลมลูกสูบสามารถสร้างความดันหรือแรงดันลมได้ตั้งแต่ 1 bar ไปจนถึง 1,000 bar ทำให้ปั้มลมลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง อีกทั้ง ปั๊มลมลูกสูบ ยังมีทั้งแบบใช้สายพานและแบบโรตารี่ ซึ่งปั๊มลมลูกสูบแบบใช้สายพานจะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว แต่ข้อดีของปั๊มลมลูกสูบแบบโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบสายพาน

ข้อดีของปั๊มลมชนิดลูกสูบ

– มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบใช้สายพานและแบบโรตารี่

– มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ขนาด 1/2 แรงม้าไปจนถึง 15 แรงม้า

– มีความทนทาน

– ทำลมได้เร็วสำหรับปั๊มลมลูกสูบแบบโรตารี่

– ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง

– เหมาะกับการใช้งาน เช่น ใช้ในอู่ซ่อมรถ งานเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ข้อเสียของปั๊มลมชนิดลูกสูบ

– ลมที่ได้อาจมีน้ำมันปะปนออกมา

– ปั๊มลมลูกสูบมีโครงสร้างคล้ายกับเครื่องยนต์ หากเป็นปั๊มลมที่ไม่ใช้น้ำมันในการขับอาจทำให้เกิดความร้อนสูงได้ง่ายและสึกหรอเร็วกว่าแบบที่ใช้น้ำมัน

– มีเสียงค่อนข้างดังขณะปั๊มทำงานสำหรับปั๊มลมแบบโรตารี่

ปั๊มลมแบบลูกสูบ ถูกออกแบบมาให้มีล้อลากจึงสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก และยังมาพร้อมกับถังเก็บลมจึงสามารถนำไปใช้งานได้เลย บำรุงรักษาง่ายและมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่าปั๊มลมอื่นๆ

ใครที่สนใจ หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรม สามารถคลิกสั่งซื้อได้เลย ทางบริษัท อินดัสทริ้โปร จำกัด มีปั๊มจำหน่ายหลายรุ่น หลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นปั๊มลมชนิดลูกสูบแบรนด์  PUMA  และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ