หลักการทำงานของปั๊มลมและรุปแบบต่างๆที่ภาคอุตสาหกรรมควรทราบ

หลักการทำงานของปั๊มลมและรุปแบบต่างๆที่ภาคอุตสาหกรรมควรทราบ

ปั้มลม หรือ Air Compressor คือเครื่องจักรสำคัญในอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่ในการอัดลมให้เกิดแรงดันสูงตามที่ต้องการ เพื่อนำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลาย นิยมใช้งานทั้งในอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงปั้มลมยังได้รับความนิยมในกลุ่มครัวเรือนเช่นเดียวกัน โดยส่วนประกอบสำคัญของระบบปั้มลมประกอบไปด้วย

เครื่องอัดลม ที่มีหน้าที่ในการอัดลมให้เกิดแรงดันที่สูงขึ้นกว่าแรงดันบรรยากาศ หากให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือส่วนสำคัญในการผลิตลมอัดขึ้นมานั่นเอง

- เครื่องทำลมแห้ง เพื่อลดความชื้นในลมอัด

- ชุดกรองลม กรองสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นในระบบปั้มลม

- ชุดระบายน้ำ คอยระบายน้ำที่กลั่นตัวขึ้นในระบบปั้มลม

- ถังเก็บลม เพื่อเก็บลมอัด ควบคุมและรักษาปริมาณลมอัดเพื่อนำไปใช้งาน

- ท่อลม

- ระบบระบายความร้อน ที่คอยรักษาระดับอุณหภูมิและความร้อนในระบบปั้มลม

- ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องอัดอากาศแบบศูนย์กลาง

เครื่องอัดลม (ปั้มลม) จะมีลักษณะการทำงานกี่รูปแบบ?

เครื่องปั้มลมประเภทลูกสูบ : ปั้มลมที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนลูกสูบขึ้นลง ก่อให้เกิดแรงดูดและอัดอากาศภายในกระบอกสูบ ถือเป็นเครื่องปั้มลมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีราคาถูกและสามารถเคลื่อนย้ายใช้งานได้หลากหลาย

เครื่องปั้มลมประเภทไดอะเฟรม : ปั้มลมที่มีหลักการทำงานคล้ายระบบลูกสูบ แต่จะมีแผ่นไดอะเฟรมเป็นตัวกั้นไม่ให้อากาศสัมผัสกับลูกสูบ ลมที่ได้จึงไม่มีการผสมกับน้ำมันหล่อลื่น สามารถสร้างแรงดันได้สูงมาก

เครื่องปั้มลมประเภทสกรู : ปั้มลมประเภทที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะสามารถผลิตลมที่มีคุณภาพสูงได้ โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังหมุนเพลาสกรู 2 ตัว ก่อให้เกิดแรงอัดอากาศขึ้น

เครื่องปั้มลมประเภทใบพัดเลื่อน : ปั้มลมที่มีจุดเด่นในด้านอากาศที่ได้จะมีแรงดันที่คงที่ เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงลมสม่ำเสมอและคงที่

เครื่องปั้มลมประเภทใบพัดหมุน : ปั้มลมที่มีใบพัดหมุน 2 ตัว และใช้โรเตอร์ในการหมุนเพื่อดูดลมเข้าจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ต้องอาศัยการระบายความร้อนและอุณหภูมิที่ดี

เครื่องปั้มลมประเภทกังหัน : ปั้มลมที่มีลักษณะเป็นใบพัดกังหันคอยดูดลมเข้าจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง มีอัตราการจ่ายลมที่สูงมาก

เพราะเหตุใดจึงต้องมีการระบายความร้อนลมอัด?

ในระบบปั้มลมมักจะมีกระบวนการที่เรียกว่า Heat Exchange เป็นกระบวนการที่ช่วยระบายความร้อนของลมอัดลง เพื่อไม่ให้น้ำในระบบปั้มเกิดการกลั่นตัว (Condense) หากในระบบปั้มลมเกิดการ Condense ขึ้นก็จะทำให้เกิดการกัดกร่อนหรือสนิมขึ้นได้ภายในระบบปั้มลมและระบบท่อลมได้ โดยกระบวนการระบายความร้อนลมอัดจะต้องติดตั้งเครื่องระบายความร้อนควบคู่ไปกับระบบปั้มลม ซึ่งรูปแบบที่นิยมแบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ ระบบระบายความร้อนลมอัดแบบ Water-Cooled และระบบระบายความร้อนลมอัดแบบ Air-Cooled

ถังเก็บลมมีหน้าที่และส่วนประกอบสำคัญอะไรบ้าง?

ถังเก็บลมอัดถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบปั้มลมแบบนิวเมติกส์ โดยมีหน้าที่สำคัญในการกักเก็บลมอัดที่เครื่องปั้มลมผลิตออกมา ควบคุมและรักษาปริมาณลมอัดให้เพียงพอต่อการใช้งาน รวมถึงมีหน้าที่ในการระบายความร้อนให้กับลมอัดและทำการแยกไอน้ำบางส่วนที่ปะปนมากับอากาศ ซึ่งกลั่นตัวเป็นหยดน้ำหลังจากที่อุณหภูมิลดลง ช่วยลดปริมาณความชื้น และขจัดฝุ่นละออง น้ำมันที่ปะปนมากับลมอัดได้ดี แต่การที่ถังเก็บลมจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญครบถ้วน ได้แก่ ถังเก็บลม วาล์วควบคุมความปลอดภัย เพื่อระบายความดันที่สูงเกินไป เกจวัดความดัน เพื่อตรวจระดับความดันในระบบปั้มลม วาล์วระบายน้ำ วาล์วเปิดปิดระบบใช้งาน และท่อต่อระหว่างถังลมกับคอมเพรสเซอร์ที่ควรติดตั้งวาล์วกันกลับ เป็นต้น

ปั้มลมเติมน้ำมันอย่างไร?

น้ำมันปั้มลม คือน้ำมันหล่อลื่นสำหรับเครื่องอัดอากาศ เนื่องจากการอัดอากาศให้มีความดันสูงจะก่อให้เกิดระดับความร้อนที่สูงตามไปด้วย จึงจำเป็นต้องมีการเติมน้ำมันปั้มลมลงไป เพื่อรักษาคุณภาพของเครื่องจักรต่าง ๆ ในระบบปั้มลม ลดการสึกหรอได้ดี โดยวิธีการเติมน้ำมันปั้มลม คือให้เลือกใช้เฉพาะน้ำมันปั้มลมเฉพาะรุ่นที่กำหนดเท่านั้น ควรเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 500 ชั่วโมง ให้เปิดฝารูเติมน้ำมันเครื่องออก และเติมน้ำมันปั้มลมลงไปจนถึงระดับกึ่งกลางของตาแมว ปิดฝาให้สนิทก็เสร็จพร้อมใช้งานต่อแล้ว

ปั้มลมไทเกอร์ผลิตจากประเทศอะไร?

ปั้มลมไทเกอร์ คือปั้มลมรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเครื่องปั้มลมที่ผลิตขึ้นจากแบรนด์ดังไทเกอร์ จากประเทศไต้หวัน โดยเป็นสินค้าที่มีการรับรองคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล ISO 9001 มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้งาน สำหรับท่านใดที่มองหาปั้มลมไว้ใช้งาน ปั้มลมไทเกอร์ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว