รวมปัญหาผิดปกติของ ปั๊มลม มักมีอะไรบ้าง? พร้อมแนวทางแก้ไข

รวมปัญหาผิดปกติของ ปั๊มลม มักมีอะไรบ้าง? พร้อมแนวทางแก้ไข

ปัญหาผิดปกติของ ปั๊มลม นั้นเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานปั๊มไปได้ซักระยะเวลาหนึ่ง ชิ้นส่วนต่างๆของปั๊มลมมักจะเกิดการสึกหรอหรือการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนนั้นๆของปั๊มลมเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติมากใน ปั๊มลมที่ถูกใช้งานเป็นประจำ หรือในทุกๆความถี่ของการใช้งานเช่นกัน ปั๊มลมที่ใช้วัสดุคุณภาพเกรดดีก็อาจจะมีค่าเสื่อมช้าลงหน่อย ส่วนปั๊มลมที่เป็นรุ่นกลางๆหรือราคาถูกลงมาก็จะเสื่อมเร็ว ไปตามคุณภาพของวัสดุภายในและการออกแบบของแต่ ละรุ่น ด้วยปัจจัยนี้เลยมีหลายคนตั้งคำถามว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า ปั๊มลม เริ่มจะมีปัญหาแล้ว เพื่อที่จะได้รีบแก้ปัญหารวมถึงเรื่องการบำรุงรักษาเพื่อทำให้ปั๊มลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน

ความผิดปกติของปั๊มลมที่มักพบเจอบ่อยๆ
      เราลองมาดูกันว่าสัญญาณเตือนแบบไหนที่เป็นตัวบ่งบอกว่าปั๊มลมของคุณกำลังมีปัญหา

ปั๊มลมทำลมได้น้อยลงกว่าที่จะเป็น โดยปกติเครื่องมือช่างที่ต้องทำงานทุกวัน วันละหลายๆรอบมักจะทำประสิทธิภาพไม่ได้เท่าเดิม ในส่วนของปั๊มลมที่ทำลมได้น้อยลง ตรวจสอบแล้วไม่พบรอยรั่วตามข้อต่อหรือถังแล้ว แต่ปั๊มลมยังทำลมได้ช้าอยู่ ใช้เวลานานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการนี้เป็นไปได้ว่า ส่วนประกอบของปั๊มอาจเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ให้นำไปตรวจจเช็คสภาพที่ร้านซ่อมเครื่องมือทันที

 มีเสียงดังมากผิดปกติหรือเสียงดังแปลกๆ สังเกตุได้ว่าปั๊มลมเมื่อเดินเครื่องมีเสียงดังมากกว่าปกติ หรือมีเสียงแปลกๆ เช่น เสียงกระทบกันของเหล็ก ทั้งนี้อาจะเกิดจากชิ้นส่วนปั๊มลมที่เกิดการชำรุดหรือเสียหายไปแล้ว ให้ปิดใช้งาน ตรวจสอบและซ่อมในทันทีเพื่อความปลอดภัย และกันการเกิดปัญหาเพิ่ม

 มีเสียงลมดังยาวหลังเครื่องตัดการทำงาน โดยทั่วไปปั๊มลมเมื่อสูบลมเข้าจนเต็มถังเก็บแล้วจะมีเสียงลมดังออกมาในชั่วขณะนึง แต่ถ้าสังเกตุเห็นว่ามีเสียงลมที่ออกมายาวกว่าปกติมากหลังการตัดการทำงานของสวิซ อาจะเป็นสาเหตุของอาการ วาล์วรั่ว หรือ ไม่สนิท หรือ รีรีฟวาล์วมีปัญหา

สีของวาล์วที่เปลี่ยนไป โดยทั่วไปแล้วการใช้งานปั๊มลมมักจะมีเศษฝุ่นเข้าไปเกาะกับวาล์วไอดี หรือวาล์วไอเสีย ถ้าฝุ่นเข้าไปสะสมยังสองจุดนี้อาจะทำให้ลมจากท่อย้อนกลับไปยังบริเวณหัวของปั๊มลม ทำให้เกิดความร้อนสะสมอยู่บริเวณหัวของปั๊มลมหรือตัวข้อต่างๆทำให้สีของวาล์วเปลี่ยนไปหรือซีดลงนั่นเอง ควรทำความสะอาดฝุ่นอยู่เสมอๆเพื่อให้การทำงานของปั๊มลมเป็นไปอย่างราบรื่น

ปัจจัย ที่ส่งผลทำให้ปั๊มลมมีปัญหา

ความร้อน

      ความร้อนเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของ ปั๊มลมอย่างมาก เพราะความร้อนสามารถส่งผลกระทบไปถึงปั๊มลมได้หลายด้านและยังทำให้เสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย เช่น ปัญหากับระบบน้ำมันเครื่อง โดยทำให้น้ำมันเครื่องเกิดความหนืดเร็วขึ้น การระบายความร้อนลดลง และอัตราการสูญเสียน้ำมันมากกว่าปกติ ชิ้นส่วนต่างๆของปั๊มลมที่เป็นพลาสติกหรือยางก็ได้รับผลไปด้วย ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ยางเริ่มกรอบและแตกหรือฉีกขาดได้ และความร้อนยังส่งผลโดยตรงกับค่า Pressure Dew Point ทำให้ปั๊มรับภาระหหนักเกินไปทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

ความชื้น

      ปัจจัยที่ส่งผลกระทบไม่แพ้กันเลยที่เป็นตัวเร่งทำให้อายุการใช้งานของปั๊มลมลดลงอย่างมากนั่นก็คือ ความชื้นในอากาศ ตัวความชื้นในอากาศนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ค่อนข้างยากต่อการควบคุมมากๆ โดยเฉพาะในบ้านเราทีมีทั้งลมทั้งฝนหรือหน้าหนาว ความชื่นนั้นส่งผลโดยตรงกับระบบของปั๊มลมต่างๆเช่น การดูดอากาศผ่านกรองอากาศยากมากขึ้นเพราะความชื้นเข้าไปสะสมทีตัวฟิลเตอร์ทำให้มีแรงต้านอากาศเกิดขึ้นมากกว่าปกติในบริเวณนี้ และยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดการควบแน่นของน้ำในระบบกลายเป็นหยดน้ำ ทำให้เครื่องทำงานหนักมาขึ้นและยังเป็นตัวเร่งให้เกิดสนิมในระบบของปั๊มลมอีกด้วย 

ฝุ่น  

      ฝุ่นโดยทั่วไปมักมีในทุกพื้นที่และทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในโรงงานหรือไซต์งานที่มีฝุ่นเยอะโดยปริมานมากน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะของสภาพแวดล้อมของแต่ละที่ อย่างไรก็ดีปัจจัยการเสื่อมสภาพที่มีต้นเหตุมาจากฝุ่นนั้นถือเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างควบคุมได้ง่ายที่พอจะทำการป้องกันได้ระดับหนึ่ง เรามาดูส่วนของผลกระทบของฝุ่นที่มีต่อปั๊มลมกันก่อน อย่างแรก เป็นสาเหตุให้ตัวกรองอากาศอุดตันทำให้อากาศไหลเข้าและออกน้อยลงและทำให้เครื่องกินไฟเพิ่มขึ้นได้ในกรณีที่มีการสะสมมากเกินไป ฝุ่นยังเป็นตัวทำให้เครื่องร้อนมากขึ้นอีกด้วยเพราะการที่ฝุ่นเข้าไปอุดตันในส่วนต่างๆอาจทำให้เครื่องระบายความร้อนไม่ทันทำให้อะไหล่ภายในเสื่อมสภาพเร็วมากขึ้นจากความร้อนสะสมนั่นเอง

วิธีป้องกันและแก้ปัญหาจาก  ความชื้น, ฝุ่น, ความร้อน ในปั๊มลม
การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความชื้น, ฝุ่น, และความร้อนในเครื่องอัดอากาศ (air compressor) สามารถทำได้ดังนี้

 ความชื้น

ใช้ตัวกรองอากาศแบบที่มีความสามารถในการดูดความชื้นออกจากอากาศใช้สารดูดความชื้นเพิ่มเติมและรักษาความสะอาดและซ่อมแซมระบบอากาศให้ดี

 ฝุ่น

ใช้กรองอากาศที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพรักษาความสะอาดของส่วนประกอบภายในเครื่อง

ความร้อน

 ให้เครื่องทำงานในสภาวะที่มีการถ่ายเทความร้อนได้ดี เช่น มีระบบระบายอากาศอย่างเหมาะสมรักษาความสะอาดของระบบระบายความร้อนนอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีการเช่นการติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ เพื่อช่วยลดปัญหาจากความชื้นและความร้อนในเครื่องอัดอากาศได้ด้วย

สรุป

 การปรับปรุงปัญหาของปั๊มลมให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมีหลายวิธี เช่น การตรวจสอบและทำความสะอาดชิ้นส่วนภายในปั๊มลมเป็นระยะๆ การเปลี่ยนถ่านหรือน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่แนะนำ การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพ การใช้งานปั๊มลมอย่างถูกต้องและระมัดระวัง เป็นต้น การดูแลแบบนี้จะช่วยลดการเสื่อมสภาพของปั๊มลมและเพิ่มอายุการใช้งานของมันได้